Content

Generation Gap: ทำไมแต่ละวัยถึงคิดไม่เหมือนกัน?

Generation Gap: ทำไมแต่ละวัยถึงคิดไม่เหมือนกัน?

Generation Gap: ทำไมแต่ละวัยถึงคิดไม่เหมือนกัน?

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาคุยกับคนต่างวัย ถึงดูเหมือนพูดกันคนละภาษา? บางครั้งคนรุ่นพ่อแม่มองว่าคนรุ่นใหม่ไม่อดทน ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็มองว่ารุ่นพ่อแม่หัวโบราณและไม่ยอมปรับตัว นี่คือ Generation Gap หรือช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดจากความแตกต่างทางค่านิยม ประสบการณ์ และสภาพแวดล้อมที่แต่ละเจเนอเรชันเติบโตมา ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักที่มาของช่องว่างนี้ และเข้าใจว่าทำไมแต่ละวัยถึงคิดไม่เหมือนกัน

โลกที่ต่างกันสร้างความคิดที่ต่างกัน

  1. Baby Boomers (เกิดปี 1946-1964): ความมั่นคงและความอดทนมาก่อน**

    • เติบโตในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องสร้างประเทศและเศรษฐกิจใหม่
    • ให้ความสำคัญกับ "ความมั่นคง" และ "ความอดทน" ในการทำงาน
    • เชื่อในการทำงานหนักและความภักดีต่อองค์กร
  2. Gen X (เกิดปี 1965-1980): เสรีภาพและความสมดุล

    • เติบโตมากับโลกที่เปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมสู่ยุคเทคโนโลยี
    • มองหาความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน (Work-life balance)
    • ค่อนข้างระแวดระวัง และไม่เชื่อมั่นในระบบมากเท่ารุ่นก่อน
  3. Millennials (เกิดปี 1981-1996): ค้นหาความหมายของชีวิต

    • เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่เปลี่ยนโลก
    • ต้องการงานที่มีความหมายและเปิดกว้างต่อความหลากหลาย
    • เชื่อในความก้าวหน้าและต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน
  4. Gen Z (เกิดปี 1997-ปัจจุบัน): ความเร็ว เทคโนโลยี และเสรีภาพ

    • เกิดมาพร้อมกับโลกดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย
    • คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงและต้องการความรวดเร็วในทุกอย่าง
    • ให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลและการแสดงออกทางตัวตน

ทำไมแต่ละวัยถึงคิดไม่เหมือนกัน?

  1. บริบทของโลกที่เติบโตมาต่างกัน

    • Baby Boomers เติบโตในโลกที่ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะที่ Gen Z เติบโตในโลกที่ข้อมูลล้นหลามและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
  2. เทคโนโลยีเปลี่ยนวิธีคิดและการสื่อสาร

    • Baby Boomers ชินกับการสื่อสารแบบตัวต่อตัว ขณะที่ Gen Z คุ้นชินกับการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
  3. มุมมองต่อความสำเร็จแตกต่างกัน

    • คนรุ่นเก่ามองว่าความสำเร็จคือความมั่นคงทางการเงิน ส่วนคนรุ่นใหม่มองว่าความสำเร็จคือการได้ทำในสิ่งที่รัก

เราจะลดช่องว่างระหว่างวัยได้อย่างไร?

  • เข้าใจว่าความคิดที่แตกต่างไม่ได้หมายถึงผิดหรือถูก
  • ใช้ Empathy หรือความเข้าอกเข้าใจในการสื่อสาร -เรียนรู้ข้อดีของกันและกันเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Generation Gap เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอเมื่อโลกเปลี่ยนไป แต่หากเราเปิดใจเรียนรู้จากกันและกัน เราจะไม่เพียงแต่ลดความขัดแย้ง แต่ยังสร้างสังคมที่เข้าใจกันมากขึ้น

บทความโดย อ.จั๊ว อรรถกร ธัญลักษณ์เมธา Mindset & Team Collaboration facilitator

#PerformanceManagement #LeadershipDevelopment #SolutionsTalk #Organization #TeamPerformance #เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม #ส่งเสริมการเรียนรู้และนวัตกรรม


ติดต่อสอบถามหลักสูตรสำหรับพัฒนาทีมที่มีประสิทธิภาพ โทร 063-249-3247

Related Contents

View All Contents
จิตวิทยาเชิงบวกกับการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์

จิตวิทยาเชิงบวกกับการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

Jackie Insinger ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเชิงบวกและประสาทวิทยาศาสตร์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของจิตวิทยาเชิงบวกในการบริหารการทีม

การบริหารทีมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยแนวคิด “FLOW
ภาวะผู้นำ

การบริหารทีมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยแนวคิด “FLOW

Flow คืออะไร และเกี่ยวข้องกับการบริหารทีมอย่างไร?

5 ทักษะที่พบในผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูง
ภาวะผู้นำ

5 ทักษะที่พบในผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูง

วิเคราะห์ผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูง พบว่า มีทักษะสำคัญ 5 ประการที่เรียกว่า "Five Talents That Really Matter"